หากพูดถึงสงครามแล้ว หลายๆคนคงนึกถึงสนามรบที่มีทหาร อาวุธ ต่างๆมาห้ำหั่นกัน ในทางประวัติศาสตร์นั้น สงครามนำมาซึ่งการแบ่งแยก ความสูญเสีย และอีกหลายอย่าง แต่ในที่นี้เราจะมาพูดถึงสงครามระหว่างนักวิทยาศาตร์ นักประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบให้ไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล
ภาพยนตร์เรื่องนี้อ้างอิงถึงเหตุการณ์จริงในอดีต คือ สงครามกระแสไฟฟ้า ระหว่างกระแสตรงและกระแสสลับ ซึ่งกระแสไฟฟ้าทั้ง 2 แบบนี้ ต้องเคยผ่านตาผู้อ่านมาจากในบทเรียนแล้วอย่างแน่นอน
โดยฝั่งกระแสตรง (DC) นำโดย โทมัส อัลวา เอดิสัน (เบเนดิกต์ คัมเบอร์เบตช์) นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ชื่อดังคนหนึ่งของโลก ซึ่งหลายๆคนต้องเคยรู้จักจากบทเรียนแน่นอน และสิ่งประดิษฐ์ของเขาได้เป็นรากฐานให้แก่อุปกรณ์ในปัจจุบันหลายๆอย่าง

ฝั่งกระแสสลับ (AC) นำโดย จอร์จ เวสติงเฮาส์ และ นิโคลา เทสลา คู่นักธุรกิจและนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการมาเขย่าบัลลังก์ไฟฟ้ากระแสตรงของเอดิสัน

ภาพยนตร์นี้เริ่มจากการเสียบัลลังก์ผู้นำด้านพลังงานของจอร์จ เวสติงเฮาส์ ให้แก่โทมัส อัลวา เอดิสัน ผู้ที่ทำให้หลอดไฟสามารถให้แสงสว่างได้นาน 13 ชั่วโมง จนได้รับการขนานนามว่าพ่อมดแห่งเมนโลพาร์ค การมาของหลอดไฟเอดิสันทำให้ชีวิตในยามค่ำคืนของชาวอเมริกาที่ต้องใช้เทียน ตะเกียง ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อมีหลอดไฟที่สามารถให้แสงสว่างได้ยาวนานนับ 10 ชั่วโมง
การครองบัลลังก์ผู้นำด้านกระแสไฟฟ้าของเอดิสันนั้น ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเท่าที่ควร เนื่องจากเวสติงเฮาส์ยังมีความพยายามที่จะนำไฟฟ้ากระแสสลับมาสู้กับกระแสตรง
แต่ทำเท่าไร จอร์จ เวสติงเฮาส์ก็ยังไม่สามารถนำกระแสสลับไปสู้จนชนะกระแสตรงได้ จนเมื่อเขาได้ค้นพบกับนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนนหนึ่งของโลก นิโคลา เทสลา
ม่านของเวทีการต่อสู้ระหว่างกระแสตรงและกระแสสลับจึงได้กลับมาอีกครั้ง…
สำหรับการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องทำการบ้านอย่างเหตุการณ์สงครามกระแสไฟฟ้ามาด้วย เนื่องจากในหนังเน้นเรื่องราวในฝั่งเอดิสันเป็นส่วนมาก โดยไม่ค่อยแนะนำตัวละครให้เรารู้จักอย่างชัดเจนนัก แม้กระทั่งผู้ช่วยของจอร์จ เวสติงเฮาส์เองก็ไม่ได้ถูกแนะนำให้เรารู้จักเท่าไหร่นัก

เราอาจเรียกภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า The Brief History of Thomas Alva Edison เลยก็ยังได้ เนื่องจากบทเทไปทางเอดิสันมาก จนเราแทบจะจำทุกอย่างเกี่ยวกับเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้หมด
ในส่วนฝั่งคู่แข่งของเอดิสันอย่างจอร์จ เวสติงเฮาส์ และนิโคลา เทสลานั้น มีบทบาทไม่มากพอที่จะเรียกได้ว่าคู่แข่ง เหมือนเป็นตัวร้ายที่โผล่มาเกือบๆท้ายเรื่องเสียมากกว่า
หากใครที่ต้องการรับชมการชิงไหวชิงพริบในด้านวิทยาศาสตร์หรือการคิดค้นพัฒนา 2 กระแสไฟฟ้านี้อาจต้องผิดหวังไปตามๆกัน เนื่องจากการต่อสู้หลักๆในเรื่องเป็นการชิงไหวชิงพริบกันในด้านพื้นที่สื่อ การสาดโคลน และการต่อสู้ในศาลเสียมากกว่า

ในส่วนของนักแสดง บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ได้แคสมาและปรับการแต่งกาย แต่งหน้า ได้ใกล้เคียงตามภาพบุคคลในอดีตที่เคยได้บันทึกไว้ ถือว่าทีมงานทำการบ้านเรื่องนี้มาดีมาก
และนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างเบเนดิกต์ คัมเบอร์เบตช์ ที่รับบทโทมัส อัลวา เอดิสันที่กำลังสูญเสียการได้ยินไปทีละช้าๆ และเข้าถึงบทบาทอัจฉริยะผู้ยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งหักหลังอุดมการณ์ของตนได้อย่างดีเยี่ยม

นิโคลัส โฮลท์ ผู้รับบทนิโคลา เทสลา นั้นเก็บรายละเอียดอาการทางจิตของนิโคลา เทสลาได้อย่างหมดจด อย่างการย้ำคิดย้ำทำของเทสลา การหมกมุ่นกับเลข 3 นิสัยรักความสะอาดจนเกินไป ความเนี๊ยบขนาดองศาต้องเป๊ะๆ และการไม่ทันคนในทางธุรกิจ รวมถึงฝีมือการแทงสนุก ที่นิโคลัสต้องไปฝึกแทงเพื่อให้เก่งพอจะรับบทเทสลาเลยทีเดียว

ในส่วนการตัดต่อนับว่าเป็นจุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเป็นการตัดฉับแบบไวมาก ทำให้ผู้ชมไม่ทันตั้งตัว และเนื้อเรื่องไม่ต่อเนื่องได้เช่นกัน
โดยสรุปแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ได้ตอบโจทย์สงครามกระแสไฟฟ้าดังชื่อเรื่องเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากเป็นแฟนคลับเอดิสันแล้วล่ะก็ ภาพยนตร์เรื่องนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน
