เที่ยวคนเดียว ญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 1: จากไทยสู่โตเกียว แอร์เอเชียเอกซ์ บินตี 2 ถึง 11 โมง พร้อมเที่ยวต่อได้เลย

เริ่มกันที่สุวรรณภูมิเลย

ในตอนนั้นทางสายการบินแอร์เอเชียเอกซ์ยังบินที่สุวรรณภูมิอยู่เลย (ฮา) ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มครับ ตอนที่ขึ้นมาชั้นเช็คอินนะครับ เราพบกับแถสยาวมโหฬารแถวนึง ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร คงไม่ใช่แถวเรา แต่พอเดินมาใกล้ ใกล้ ใกล้ นั่นแหละครับ สายการบินนี้จริงๆ ยาวเลยมาสามช่องตัวอักษร ยาวเป็นหางว่าวเลยจริงๆ

แน่นอนว่าตอนนั้นเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ตามมาส่ง เห็นแถวแล้วก็ตัดสินใจโบกมือลากันเลยทีเดียว ไม่รอส่งขึ้นบันไดเลื่อนแห่งความโศกเศร้าแล้ว (ฮา) ต่อแถวมาสักเกือบครึ่งชั่วโมง แถวขยับไปนิดๆ หน่อย ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าเรามีบัตรเบ่งนี่นา ที่สมัครมาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ นั่นคือ บัตรเครดิตแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพ บัตรเบ่งที่น่าจะสามารถลัดคิวไปต่อช่องชั้นธุรกิจ ของสายการบินเจ้าของบัตรนี้ได้ ประกอบกับตอนนั้นที่มีพนักงานเดินมาพอดี จึงสอบถาม และเขาก็พาลัดคิวไปนู่นเลย ไกลมาก เกือบสุดแถวเชคอิน ซึ่งแถวก็สั้นจริงๆครับ มีแค่ไม่ถึง 10 คน (จากแถวเดิม เป็นร้อยคน) นับว่าดีจริงๆ

เวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน ก็ถึงคิวของเรา แน่นอนในเมื่อเรา สมัครบัตรเครดิตแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพ ครั้งแรก เราจะได้คูปองสำหรับโหลดน้ำหนักกระเป๋า เลือกที่นั่ง และ แลกเครื่องดื่มบนเที่ยวบินได้ของแอร์เอเชียที่ออกจากประเทศไทยได้ แต่ข้อจำกัดก็คือ ต้องแลกที่หน้างานไม่สามารถจองผ่านเว็บได้ และปัญหาของเราก็คือ เลือกที่นั่งริมหน้าต่างไม่ได้ เพราะเขาเลือกกันตั้งแต่จองกันแล้ว เต็มหมด เที่ยวบินนี้ก็น่าจะเต็มลำ พนักงานจึงเสนอทางเลือกอะไรไม่ได้ นอกจากที่เราจะยอมรับชะตากรรมนี้ไว้ว่าที่หลัง มาเชคอินเร็วๆ นะ จะได้เลือกที่นั่งริมหน้าต่างได้ สำหรับน้ำหนักกระเป๋า ใช้ได้อยู่แล้วครับ สบายๆ อย่างที่เห็น ผมใช้กระเป๋า 30 นิ้ว และบรรจุน้ำหนักไป 11.8 กิโลกรัมครับ

เมื่อเราเช็คอินสำเร็จ ก็ถึงเวลาไปเกทครับ

ได้เวลาผ่านพิธีกรรมตรวจคนออกจากเมือง หรือนั่นก็คือ ตม นั่นเอง และเราก็ต้องผ่านบันไดเลื่อนแห่งความโศกเศร้า ผมมองไปรอบๆ บางคนสุขเศร้าเคล้าน้ำตาจากการต้องจากคนที่เรารักและครอบครัวไป (เห้ยยังไม่ตาย++) ตม สำหรับคนไทยไม่ยาวครับ มีช่องอัตโนมัติสำหรับคนไทยอยู่ แค่แทรก ๆ และเดินยาวๆ มาที่ช่องคนไทยได้เลย

ออกจาก ตม มาได้เราก็จะเจอกับงานศิลป์ที่เราแทบจะเห็นทุกครั้งเวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ เป็นสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าเป็นการส่งเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทยของสนามบิน เพราะไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับความเป็นไทยเลยในโครงสร้างสนามบิน แต่ก็นั่นแหละ มันดูขัดๆกันกับสนามบินนี้นิดหน่อยนะฮะ

กลับมาเข้าเรื่องไปญี่ปุ่นของเรากันต่อ ประตูเกทขึ้นเครื่องของเราอยู่ที่ GATE C8 แต่ก่อนจะไปเกท เราจะไปรับของฟรีกันที่ร้านฟาสฟู๊ดชื่อดัง McDonald’s ใช้สิทธิ์ของ UOB FLY WITH ME เอกสิทธิ์สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารยูโอบี ซึ่งโปรโมชั่นขณะนั้น เป็น รับฟรี ซามูไรเบอร์เกอร์ และ พาย อย่างละหนึ่งชิ้นครับ เมื่อรับสิทธิ์แล้วก็เดินไปที่เกทกันเลย

ผมมานั่งกินแมคโดนอลด์ที่เกท เข้าห้องน้ำ และดื่มน้ำ รวมถึงกรอกน้ำใส่ขวดพกพาเพื่อไปดื่มบนเครื่องบิน และพอถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่อง นั่นคือเวลา 01:20 พนักงานเริ่มออกมาเรียกขึ้นเครื่องตามสเต็บการขึ้นเครื่องของแอร์เอเชีย ถึงเราจะมีบัตรเครดิตแอร์เอเชีย แต่ด้วยความที่เราไม่มีของและนั่งริมทางเดิน จึงเลือกที่จะขึ้นคนท้าย ๆ จะดีกว่า แถมไม่ต้องยืนนาน ต่อคิวขึ้นเครื่องอีกด้วย

แต่ผลสุดท้ายก็ต้องต่อคิวอยู่ดี (ฮา) แต่ก็ไม่เยอะเท่ากลุ่มแรก ๆ มั่งครับ เพราะพอผมนั่งเสร็จ อีกแปปนึงก็เดินตรวจเช็คจำนวนผู้โดยสาร พร้อมที่จะออกเดินทางกันแล้ว (เย้!!)

บนเครื่องบิน

ตัดภาพมาที่บนเครื่องบินกันครับ เครื่องบินของแอร์เอเชียเอกซ์ เป็นเครื่องบินแอร์บัส เอ330 จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 ระยะห่างระหว่างที่นั่งก็พอให้คนสูง 180 cm อย่างผมนั่งได้ แต่!!!!! นอนไม่หลับครับ น่าจะนอนไปแค่ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ที่เหลือ ตื่นยาว หลับไม่ลง คิดว่าน่าจะตื่นเต้นที่ไปครั้งแรก และมันน่าจะอึดอัดมั่งครับ แต่คิดถูกนะครับที่นั่งติดริมทางเดิน เพราะมันพอที่จะยืดขาได้ยาวๆ สบายหน่อย

และแน่นอน ใครอยากนอนสบายๆ เขามีออพชั่นให้เช่าและซื้อฮะ ทั้งผ้าห่ม ทั้งซื้ออัพเกรดที่นั่งเป็นฮอตซีต อัพเกรดเป็นแฟลตเบต ให้นอนราบกันไปเลย แต่แน่นอนครับเสียเงิน เราเก็บเงินนี้ไปเที่ยวที่จุดหมายปลายทางได้ อดนอนแค่นี้ เราทนได้ 🤣

มาถึงอาหารบนเครื่อง ผมสั่งจองอาหารมาล่วงหน้าเป็น ข้าวกะเพราไก่สูตรหม่อมหลวงหน่อย ซึ่งได้มาพร้อมน้ำเปล่า 1 ขวด แน่นอนยังมีคูปองแลกเครื่องดื่มบนเครื่องอีก จึงแลกโค้กกระป๋องมา ยังไม่พอฮะ ยังซื้อชานมไข่มุกบุก ชื่อดังของแอร์เอเชียมาอีก เรียกได้ว่าอิ่มแปล้ระหว่างบนเครื่องกันไปเลยทีเดียวครับ

หมดแล้ว ลืมถ่าย สงสัยหิวไปหน่อย
แอร์เอเชีย เอกซ์

เมื่อรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จสิ้น ก็ใกล้เวลาเครื่องลงแล้วครับ เราจะถึงญี่ปุ่นกันแล้ว ครั้งแรกกับญี่ปุ่นเลยนะเนี่ย ตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ย

เครื่องลง

ผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เราได้พาท่านผู้โดยสารมาถึงสนามบินนานาชาติโตเกียวนาริตะเป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้เป็นเวลา 10 นาฬิกา 35 นาที ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น เราขอแจ้งให้ท่านทราบว่าเราเดินทางมาถึงที่หมายก่อนเวลา 10 นาทีค่ะ

ในที่สุด ถึงพื้นดินแล้วครับ เรามาถึงญี่ปุ่นแล้ว สนามบินนาริตะ หนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดแห่งนึงของโลก มีเครื่องบินสายการบินต่างๆ มากมายและนั่นคือเครื่องบินของเรา ที่พาส่งจากกรุงเทพมหานคร มาถึง โตเกียวประเทศญี่ปุ่น

ในทางเดินที่ทอดยาวนั้นได้เห็นเครื่องบินหลาหลายสัญชาติ สุดลูกหูลูกตาจริง เราเดินผ่านจุดตรวจอุณหภูมิ จนมาเข้า ตม ได้สำเร็จ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบแล้วว่าได้ทำ VISIT JAPAN มาหรือเปล่า (ตอนนั้นยังบังคับกรอก)

และในที่สุดเราก็ผ่าน ตม และศุลกากรมาได้อย่างปลอดภัยหายห่วง เดินชิว ไม่ถามอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงจะมีเจ้าสุนัข ดมกระเป๋าที่ศุลกากร นิดหน่อย แต่น้องก็เซย์โน ปล่อยเราผ่านเพราะไม่มีของน่าสงสัย

นั่งรถไฟ เข้าเมือง กับ เน็กซ์ รถไฟด่วนเชื่อมสนามบิน นาริตะเอ็กซ์เพรส

เราซื้อพาสรถไฟมาจากเว็บ JR EAST โดยตรง เป็น TOKYO WIDE PASS ขึ้นรถไฟไม่จำกัดภายในเขตโตเกียวและจังหวัดรอบข้าง รวมถึงชินกังเซน และรถไฟด่วนแบบระบุที่นั่ง ใช้ได้ 3 วัน โดยเราได้จองที่นั่งมาเรียบร้อยครับ

เมื่อเรามาถึงที่สถานีรถไฟ (ด้านล่างสนามบิน) เราก็มองหาตู้ซึ่ง เราหาตู้ไม่เจอครับ ตอนนั้นเหงื่อแตกครับ ตูจะขึ้นรถไฟยังไง เลยเหลือบไปเห็น JR EAST TRAVEL SERVICE CENTER จึงเข้าไปต่อคิว และแสดงเอกสารที่ปริ้นมาจากเมลให้พนักงานดู พนักงานก็ขอพาสปอร์ต แล้วก็พูดเป็นภาษาอังกฤษ ว่า เราจองมาแล้ว ตามนี้เลยใช้ไหม ไม่แก้อะไรนะ จริงๆ สามารถออกตั๋วที่ตู้อัตโนมัติได้เลย แบบที่มีช่องวางพาสปอร์ต (ก็ไม่เห็นนิ หาไม่เจอ) เสร็จแล้วเราก็ได้มาแล้ว PASS และ RESERVED SEAT TICKET (ตํ่วระบุที่นั่งที่จองไว้ผ่านเว็บ)

ตอนนั้นเริ่มสายแล้วครับ เพราะคิวนานพอสมควร เลยใกล้เวลารถไฟออก นี่ขนาดเผื่อไว้เกือบ 2 ชั่วโมง เลยรีบลงไปซื้อของกิน อาหารมื้อกลางวันของเราที่เซ่เว่น นั่นก็คือ อาหารมื้อแรกคือข้าวปั้น ผลิตที่ญี่ปุ่นฮะ (ฮา)

ที่เก็บกระเป๋าอยู่บริเวณทางเข้าออก มีที่ล็อกรหัส
ที่นั่งแบบมาตรฐาน จัดแบบ 2-2

หลังจากนั้น ผมก็รีบลงไปชานชาลา เพื่อขึ้นรถไฟคันแรกของเราที่ญี่ปุ่นนั่นคือ NEX รถไฟด่วนเชื่อมสนามบิน นาริตะเอกซ์เพรส วิ่งไปทั่วทั้งโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงเลย ถือว่าสะดวกมาก สำหรับใครที่พักแถบรถไฟเจอาร์ เช่น สถานีโตเกียว ชิบุยะ ชินจุกุ โยกาฮาม่า โอฟุนะ เพราะต่อเดียวถึงสถานีปลายทาง ไม่ต้องเปลี่ยนรถเลย แถมรวมอยู่กับพาสอีก จ่ายเหมาไปแล้วใช้ได้คุ้มเลย

และแล้วเราก็หลับมาถึง เอ้ยนั่งชมวิวมาถึง (หลับสบายมาก เพราะไม่ได้นอนบนเครื่อง) ชินจุกุ จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ โดยที่พักของเราอยู่ย่านชินโอคุโบะ ซึ่งด้วยกระเป๋าใบใหญ่ ผมจึงตัดสินใจต่อรถไฟสายรอบเมือง (ยามาโนเตะ) มาลงสถานีชินโอคุโบะ และแน่นอน ใช้พาสได้ เดินลากกระเป๋าจนถึงที่พักและฝากกระเป๋า พร้อมเที่ยวกันเลย

ติดตามอ่านได้ในตอนต่อไปครับ

ซีรีส์ : เที่ยวคนเดียว ญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

More like this

เที่ยวคนเดียว ญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 2:...

ในโพสต์นี้เราจะพาไปเที่ยวสถานีรถไฟโอชะโนะมิซึ ชมวิวจุดตัดของรถไฟ JR และ Tokyo Metro ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว หลังจากนั้น ไปเที่ยววัดอาซาคุซะ หรือวัดโคมแดง หลังจากนั้นอีก เที่ยวชมสถานที่ริมแม่น้ำสุมิดะ ต้นบ๊วย ตึกฟองเบียร์ และถ่ายรูปกับสกายทรี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า